การผลิตเครื่องปั้นดินเผาในประเทศไทย

การผลิตเครื่องปั้นดินเผาของไทยมีการผลิตกันมานาน จากประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัยทุกคนคงเคยได้ยินถึงการผลิต “เครื่องสังคโลกหรือถ้วยชามสังคโลก” ได้แก่ เครื่องปั้นดินเผา ทั้งชนิดเคลือบและไม่เคลือบ มีรูปทรงลวดลายสีสันสวยงามมีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมและได้การพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

เครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตในประเทศไทยมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ ๕ ประเภทตามลักษณะของเนื้อดิน ดังนี้

ก. เทร์ราคอตตา (TERRA COTTA) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหยาบสีออกแดงน้ำตาล มีทั้งชนิดเคลือบ และไม่เคลือบ เช่น กระถางต้นไม้แจกันดิน โอ่งมังกร เป็นต้น
ข. เอิร์ทเทนแวร์ (EARTHENWARE) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อดินแน่น ทึบแสง เคลือบมันส่วนใหญ่ผลิตเป็นเครื่องถ้วยชาม
ค. สโตนแวร์ (STONEWARE) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อแข็งทึบแสง มีเนื้อดินผสมมากผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ ได้แก่ เครื่องใช้และเครื่องประดับบ้าน
ง. พอร์ซเลน (PORCELAIN) เป็นผลิตภัณฑ์ชั้นดีมีเนื้อแกร่ง โปร่งแสง เคลือบเป็นมัน เคาะดูมีเสียงกังวาน ไม่ดูดน้ำ ผลิตเป็นของใช้ประจำวัน งานแพทย์ วิทยาศาสตร์และเครื่องประดับชนิดต่างๆ
จ. โบนไชนา (BONE CHINA) เป็นเครื่องปั้นดินเผาชนิดที่ดีที่สุด ราคาแพงที่สุด มีความขาวและวาวมาก เนื้อบางเบาแข็งแกร่ง มีการใช้เถ้าจากกระดูกสัตว์ผสม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความเบาและเงางาม ผลิตเป็นเครื่องใช้ และเครื่องประดับชนิดต่างๆ

นอกจากจะแบ่งตามลักษณะเนื้อดินแล้วยังมีการแบ่งตามลักษณะการใช้งานอีกด้วยคือ
ก. เครื่องใช้สำหรับการก่อสร้าง เช่น กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และสุขภัณฑ์
ข. เครื่องใช้สำหรับใช้ในครัวเรือน เช่น ถ้วย จาน ชาม ต่างๆ
ค. เครื่องใช้สำหรับใช้ประดับตกแต่ง และของชำร่วย ของที่ระลึกต่างๆ เช่น แจกัน ตุ๊กตารูปคน รูปสัตว์ต่างๆ เป็นต้น
ง. เครื่องปั้นดินเผาสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอื่น เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบเครื่องจักรกลหรือเครื่องไฟฟ้า เช่น ลูกถ้วยไฟฟ้า เป็นต้น

การผลิตเครื่องปั้นดินเผาในประเทศไทยปัจจุบันได้พัฒนาจากการผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศและทดแทนการนำเข้า มาเป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อการส่งออก โดยรัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมการลงทุน โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่จากต่างประเทศเข้ามาช่วย ด้วยการเชิญชวนนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาร่วมลงทุนกับผู้ผลิตของไทย เป็นต้น

ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนพ.ศ. ๒๕๓๕ แสดงให้ทราบว่ามีโรงงานเครื่องปั้นดินเผาที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนรวม ๙๓ ราย โดยแยกเป็นผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและเครื่องสุขภัณฑ์ ๑๖ ราย มีกำลังการผลิตกระเบื้องโมเสก ๑๑๑,๓๐๐ ตันต่อปี กระเบื้องปูพื้นบุผนัง ๔๗๔,๕๐๐ ตันต่อปี เครื่องสุขภัณฑ์ ๖๔,๓๐๐ ตันต่อปี ผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาสำหรับใช้ในครัวเรือน ของชำร่วยของที่ระลึก เครื่องประดับบ้าน รวม ๗๗ ราย มีกำลังการผลิตรวม๑๑๙,๕๕๓ ตัน และ ๘๔.๖ ล้านชิ้น เป็นต้น โดยโรงงานเหล่านี้มีการลงทุนค่อนข้างสูงและบางรายร่วมลงทุนกับชาวต่างประเทศ มีการใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตที่ทำการผลิตในรูปอุตสาหกรรมในครัวเรือนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถรวบรวมจำนวนและกำลังการผลิตได้

แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญของไทยคือภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดลำปางและจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีการผลิตในภาคกลางที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง เช่น สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี เป็นต้น ส่วนภาคอีสานมีมากที่ ตำบลด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น

ศิลปะการทำเครื่ื่องปั้นดินเผาออกสู่ตลาดโลก

เสน่ห์เครื่องปั้นดินเผา ศิลปะแขนงนี้ไม่เพียงพบว่ามีความเป็นมานับแต่ครั้งยุคก่อนประวัติ ศาสตร์ ในด้านวิวัฒนาการการสร้าง สรรค์ยังมีความโดดเด่น โดยเทคนิคผลงานแต่ละยุคสมัยมีความหลากหลายแตกต่างกันตามลักษณะของผล งาน ปัจจุบันศิลปะเครื่องปั้นดินเผาได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง

CERAMICS หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่นำมาปั้นแล้วเผา ซึ่งมีทั้งเคลือบและไม่เคลือบ ปัจจุบัน CERAMICS ไม่ได้หมายถึงงานดินเผาไฟเคลือบเท่านั้น ยังรวมถึงงานเครื่องแก้ว ซีเมนต์ ปูนปลาสเตอร์ เครื่องสุขภัณฑ์ ฉนวนไฟฟ้า และการเคลือบ บนโลหะ งานเครื่องปั้นดินเผาแบ่งออกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆคือ

1. ศิลปอุตสาหกรรม ( Industrial Arts ) คือเครื่องปั้นดินเผาที่ออกมาในรูปของสิ่งของเครื่องใช้ประเภท เคลือบเช่น จาน ชามถ้วย โถ กระเบื้องมุงหลังคา อิฐทนไฟ ท่อดินเผา เครื่องสุขภัณฑ์ กระเบื้องปูพื้น เป็นต้น

2. ศิลปบริสุทธิ์ ( Fine Arts ) คืองานเครื่องเคลือบดินเผาที่ออกมาในรูปของงานศิลปะ ไม่ได้มุ่งหมายเกี่ยว กับการใช้สอย ในสมัยโบราณมักทำขึ้นเพื่อศาสนา เพื่อความศรัทธา เช่นพระพุทธรูป รูปเคารพ หรือรูป สัตว์ต่างๆตามคตินิยม ปัจจุบัน ไม่ได้มุ่งเรื่องทางศาสนา แต่เพื่อแสดงออกอย่างอิสระตามความคิดของ ผู้สร้างสรรค์

ลักษณะของเครื่องปั้นดินเผา แบ่งออกได้ 3 ลักษณะที่สำคัญ คือ
1. Earthern Ware เป็นเครื่องปั้นดินเผาระดับต่ำสุด มีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบ เผาในอุณหภูมิต่ำ เนื้อดินหยาบได้แก่ อิฐ กระถาง หม้อดิน น้ำต้น(คณโฑ) ถ้วย จาน ชาม โอ่ง ไห ฯลฯ
2. Stone Ware เป็นเครื่องปั้นดินเผาเคลือบที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุต่างๆ อาท ิ แร่ยิปซัม แร่ควอตซ์ ผสมในเนื้อดินปั้นแล้ว เผาในอุณหภูมิสูง จะได้เครื่องปั้นดินเผาเนื้อแกร่งกันน้ำ และกันซึมได้ เป็นพวกฉนวนไฟฟ้า จาน ชามกระเบื้อง แก้ว เครื่องสุขภัณฑ์ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง ฯลฯ
3. Porcelain เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดี ที่สุดเนื้อดินปั้นมีเนื้อละเอียดผสมแร่ธาตุต่างๆและเถ้ากระดูกวัว ( Bone China) แล้ว เผาในอุณหภูมิสูงมากจนถึงจุดสุกตัว เนื้อดินปั้นและส่วนประกอบหลอมละลาย เป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าผลิตภัณฑ์เนื้อบาง จะมีลักษณะโปร่งแสง เนื้อแกร่ง กันน้ำกันซึม ทนทานต่อสาร ละลายและสารเคมีทุกชนิด ทนความร้อนสูง มักใช้ผลิต อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์หรือชิ้นส่วนที่ต้อง การความทนทานมาก ไม่ค่อยนิยมทำเป็นภาชนะเช่น จาน ชาม ถ้วย เนื่อง จากมีต้นทุนการผลิตสูง ทำให้มีราคาแพงมาก

วัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผาของจีนที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

เครื่องปั้นดินเผาถือเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญของชาวจีนในสมัยโบราณ เพราะมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แท้ที่จริงแล้ว ชาวจีนในยุคโบราณกาลต่างคุ้นเคยกับดินเป็นอย่างดี เพราะบรรพบุรุษของพวกเขาดำรงชีพด้วยการทำไร่ไถนาจึงมีโอกาสคลุกคลีกับดินจนเรียนรู้ว่า หลังจากที่ดินเหนียวถูกน้ำ จะจับตัวกันเป็นก้อนเหนียวจนสามารถปั้นให้เป็นรูปทรงต่างๆ ได้ เมื่อนำไปตากแดดให้แห้งจะช่วยเพิ่มความทนทานให้แก่ก้อนดินเหล่านั้น แต่ถ้านำไปผ่านการเผาก็จะเกิดคุณสมบัติพิเศษในการกันน้ำและมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จุดนี้ยังแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การใช้ประโยชน์ของไฟในยุคดึกดำบรรพ์หรือประมาณ 1 ล้านกว่าปีก่อน ที่กล่าวมานี้ถือเป็นจุดกำเนิดของการผลิตเครื่องปั้นดินเผา การค้นพบศิลปะแขนงนี้ ถือเป็นกระบวนการสำคัญที่แสดงให้เห็นถึง การก้าวเข้าสู่ความเป็นอารยชนของมนุษยชาติ เพราะถือเป็นครั้งแรกที่เรารู้จักนำทรัพยากรซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติ มาผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ และผลิตเป็นของที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

จีนเป็นแหล่งกำเนิดของเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายคราม เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนมีประวัติความเป็นมายาวนาน มีรูปร่างสวยงาม เนื้องานละเอียด และยังได้รวมเอาคุณค่าด้านการใช้งานและคุณค่าทางศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่อง เคลือบลายครามของจีนยังคงเฟื่องฟู แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามที่มีชื่อเสียงของจีน ได้แก่ จิ่งเต๋อเจิ้น ถังซานและสือวาน

เครื่องปั้นดินเผาที่ขุดค้นพบที่ซากเมืองโบราณยินซึ่งเป็นเมืองหลวงสมัยราชวงศ์ซางเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนเกิดในสมัยนั้น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ฮั่นเทคนิคการเผาได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เครื่องปั้นดินเผาลดความสำคัญลงไปโดยมีเครื่องเคลือบลายครามเข้ามาแทนที่ ในสมัยราชวงศ์ถังการสร้างสรรค์ทางศิลปะและเทคนิคการผลิตเครื่องปั้นดินเผาได้รับการพัฒนาจนสุกงอมทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ เครื่องเคลือบลายครามสีเขียวอ่อน เครื่องเคลือบลายครามสีขาวและเครื่องเคลือบลายครามสามสีถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงเทคนิคและศิลปะการผลิตขั้นสูงสุดของเครื่องเคลือบลายครามในสมัยราชวงศ์ถัง ต่อมาในสมัยราชวงศ์หยวน มีเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามจำนวนมากจำหน่ายไปยังต่างประเทศ ในสมัยราชวงศ์ซ่ง อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามเจริญรุ่งเรืองมาก จึงมีเตาเผาที่มีชื่อเสียงในการผลิตเกิดขึ้นมากเช่นกัน จนมาถึงสมัยราชวงศ์หมิงและชิงซึ่งเป็นยุคที่อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนรุ่งเรืองถึงขีดสุด เทคนิคและฝีมือการผลิตในยุคนี้ก็ได้รับพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งเช่นกัน

 

อุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาในเอเชียในปัจจุบันมีมากขึ้นมากเพียงใด

เครื่องดินเผาได้เสนอให้บริการที่หลากหลายเพื่อการแข่งขันของมนุษย์ตั้งแต่สมัยแรก มันเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดในหมู่และมีบทบาทสำคัญในวันที่ชีวิตประจำวันของคนจำนวนมาก สำหรับนักโบราณคดี, เครื่องปั้นดินเผาสามารถวัดของการพัฒนาประเทศเครื่องปั้นดินเผาเป็นศิลปะที่ไม่ซ้ำกันมากในการทำสิ่งประดิษฐ์จากดินเหนียว อุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาในวันนี้ไม่ได้มากขนาดใหญ่ แต่จะมีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมขนาดเล็กศิลปินในอุตสาหกรรมขนาดเล็กของเครื่องปั้นดินเผามีจากสถานที่โดยทั่วไปในชนบท อย่างไรก็ตามแนวโน้มมีการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อหัวประชากรของประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากที่นำไปสู่กลางและสูงกว่าคนชั้นซื้อหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาจึงช่วยเพิ่มการขายของเครื่องปั้นดินเผา

ในปัจจุบันโตชิบา Ballotine จำกัด ได้ร่วมทุนกับ บริษัท โตชิบาคอร์ปอเรชั่น ข้อตกลงของ บริษัท ในการผลิตและการตลาดของลูกปัดแก้วในอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผา มีกระจกหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกซึ่งร่วมในการผลิตสื่อและสะท้อนให้เห็นถึงการทำเครื่องหมายทางเดินเป็น abrasive ปรับสำหรับการทำความสะอาดและการตกแต่งชิ้นส่วนโลหะในการบินและอวกาศ บริษัท ซึ่งข้อตกลงในผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์ก็คือซิลิกาตาม PQ Corporation ในประเทศอินเดีย, อุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาเครื่องแก้วและเครื่องครัวที่รวดเร็วการพัฒนาอุตสาหกรรม บางส่วนของ บริษัท รายใหญ่ในประเทศอินเดียมี potteries Hitkari, Jaipur แก้วอุตสาหกรรม Palam Potteries, เฮอริเทจดินเผา, Pelican ดินเผา, ฯลฯ ในช่วงเวลาเทศกาล Deepawali,ประมาณ 100,000 รูปีต่อเดือนที่ใช้ในเครื่องปั้นดินเผา เครื่องปั้นดินเผาวิลเลจมีการขายในสังคมขนาดเล็กของอินเดียและด้วยความช่วยเหลือของตลาดเหล่านี้เครื่องปั้นดินเผาเป็นที่นิยมมาก

อุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาในเอเชียวันที่ปัจจุบันอินเดีย, ปากีสถาน, เนปาล, อิหร่าน, จีน, ยูเออีและศรีลังกาเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ผลิตและส่งออกสินค้าเซรามิก อุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาในประเทศแถบเอเชียให้การจ้างงานเช่นเดียวกับมาตรฐานการครองชีพประโยชน์ให้กับทั้งสองคนต่างจังหวัดและปริมณฑลประชากร อุตสาหกรรมนี้มีบทบาทสำคัญในการรวม GDP ของประเทศในเอเชียเหล่านี้และมีบทบาทสำคัญในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาในแอฟริกาปัจจุบันอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาของแอฟริกาจะจัดมากและมีการบริหารจัดการให้โอกาสการจ้างงานเพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของประชากร นี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการเจริญเติบโตของประเทศได้รับประโยชน์ของประเทศและสร้างการจ้างงานไปยังส่วนที่ยากจนและด้อยของสังคม ผู้ผลิตรายใหญ่ของเครื่องปั้นดินเผาในแอฟริกา : Western Cape, โมร็อกโก, ไลบีเรีย, Eastern Cape, แคเมอรูน, Gauteng, รังสรรค์ขวาซูลูและ Natal

อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีน

เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผามีอยู่หลายประเภททั้งผู้ผลิตขนาดใหญ่ขนาดกลาง และขนาดย่อม ซึ่งมีจำนวนมาก ในขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายยังต่างประเทศนั้นมีเฉพาะผู้ประกอบการขนาดใหญ่เป็นส่วนใหญ่ ส่วนผู้ประกอบการขนาดย่อมนั้นยังขาดข้อมูล ความรู้และเทคนิคในการผลิตผลิตภัณฑ์ จึงทำให้ไม่สามารถที่จะผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลได้ ดังนั้นการให้ความช่วยเหลือในการปรับปรุงกระบวนการผลิตด้านต่างๆ เช่น การปรับสูตรเนื้อดิน การปรับสูตรเนื้อเคลือบ การปรับสูตรสี และการปรับขั้นตอนในการผลิตให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อช่วยในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานสากลและช่วยส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาไปยังตลาดต่างประเทศให้มีมากขึ้นได้

จีนเป็นแหล่งกำเนิดของเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายคราม เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนมีประวัติความเป็นมายาวนาน มีรูปร่างสวยงาม เนื้องานละเอียด และยังได้รวมเอาคุณค่าด้านการใช้งานและคุณค่าทางศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก

เศษเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดค้นพบที่ซากเมืองโบราณยินซึ่งเป็นเมืองหลวงสมัยราชวงศ์ซางเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนเกิดในสมัยนั้น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ฮั่นเทคนิคการเผาได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เครื่องปั้นดินเผาลดความสำคัญลงไปโดยมีเครื่องเคลือบลายครามเข้ามาแทนที่ ในสมัยราชวงศ์ถังการสร้างสรรค์ทางศิลปะและเทคนิคการผลิตเครื่องปั้นดินเผาได้รับการพัฒนาจนสุกงอมทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ เครื่องเคลือบลายครามสีเขียวอ่อน เครื่องเคลือบลายครามสีขาวและเครื่องเคลือบลายครามสามสีถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงเทคนิคและศิลปะการผลิตขั้นสูงสุดของเครื่องเคลือบลายครามในสมัยราชวงศ์ถัง ต่อมาในสมัยราชวงศ์หยวน มีเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามจำนวนมากจำหน่ายไปยังต่างประเทศ ในสมัยราชวงศ์ซ่ง อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามเจริญรุ่งเรืองมาก จึงมีเตาเผาที่มีชื่อเสียงในการผลิตเกิดขึ้นมากเช่นกัน จนมาถึงสมัยราชวงศ์หมิงและชิงซึ่งเป็นยุคที่อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนรุ่งเรืองถึงขีดสุด เทคนิคและฝีมือการผลิตในยุคนี้ก็ได้รับพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งเช่นกัน

ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนยังคงเฟื่องฟู แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามที่มีชื่อเสียงของจีนได้แก่ จิ่งเต๋อเจิ้น ถังซานและสือวาน เป็นต้น้น

ยกระดับเครื่องปั้นดินเผา เพื่อการพัฒนาสู่สินค้าตลาดโลก

เครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้านในอดีตผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวัน และใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ มีทั้งไม่เคลือบและมีการเคลือบผิว จนสามารถสร้างเครื่องปั้นดินเผาชนิดต่าง ๆ ที่สามารถผลิตเป็นจำนวนมาก เพื่อการค้าขาย และได้พัฒนาจน มีรูปแบบ ประโยชน์ใช้สอยมากมาย ซึ่งในปัจจุปันเครื่องปั้นดินเผาได้พัฒนาขึ้นจนเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ผลิตเพื่อการส่งออกที่สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน สาเหตุจากการพัฒนาเครื่องปั้นดินเผาเป็นอุตสาหกรรม รวมทั้งการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีด้านวัสดุสมัยใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น ส่งผลให้เครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้านของจังหวัดเชียงใหม่ถูกลดความสำคัญลง ผู้คนที่ผลิตเครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้านเพื่อขายจึงทยอยเลิกผลิตไปที่ละแหล่ง จนบางแหล่งเลิกผลิต หันไปประกอบอาชีพด้านอื่น เพื่อสร้างรายได้ทดแทน เหตุที่พัฒนาการของเครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้านหยุดนิ่ง เกิดจากความนิยมในการใช้งานลดลง คุณภาพของผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานในสังคมปัจจุบัน รูปแบบดั้งเดิมที่ขาดการประยุกต์ออกแบบและพัฒนาให้เหมาะสมกับยุคสมัย เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายหากเครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้านของจังหวัดเชียงใหม่ที่เคยเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์จะค่อย ๆ เสื่อมถอยไปตามกาลเวลา การวิจัยเพื่อยกระดับเครื่องปั้นดินเผาเพื่อการพัฒนาสู่สินค้า OTOP ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการปรับปรุงพัฒนา การผลิต ด้านการออกแบบให้มีความเหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจำวันในปัจจุปันได้มากขึ้น มีการพัฒนาวิธีการผลิตคือเทคนิคในการผลิต การออกแบบ การตลาด ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ สู่ชุมชน เพื่อจัดวางแนวทางในการพัฒนา ส่งเสริม แก้ปัญหา เพื่อให้แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาสามารถดำรงอยู่ได้ในสภาพสังคมปัจจุบันเป็นผลให้ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้านพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ที่สร้างรายได้ และความภาคภูมิใจ ให้กับคนไทยว่าสินค้าของไทยก็โดดเด่นไม่แพ้ชาติใดในโลก