วัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผาของจีนที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

เครื่องปั้นดินเผาถือเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญของชาวจีนในสมัยโบราณ เพราะมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แท้ที่จริงแล้ว ชาวจีนในยุคโบราณกาลต่างคุ้นเคยกับดินเป็นอย่างดี เพราะบรรพบุรุษของพวกเขาดำรงชีพด้วยการทำไร่ไถนาจึงมีโอกาสคลุกคลีกับดินจนเรียนรู้ว่า หลังจากที่ดินเหนียวถูกน้ำ จะจับตัวกันเป็นก้อนเหนียวจนสามารถปั้นให้เป็นรูปทรงต่างๆ ได้ เมื่อนำไปตากแดดให้แห้งจะช่วยเพิ่มความทนทานให้แก่ก้อนดินเหล่านั้น แต่ถ้านำไปผ่านการเผาก็จะเกิดคุณสมบัติพิเศษในการกันน้ำและมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จุดนี้ยังแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การใช้ประโยชน์ของไฟในยุคดึกดำบรรพ์หรือประมาณ 1 ล้านกว่าปีก่อน ที่กล่าวมานี้ถือเป็นจุดกำเนิดของการผลิตเครื่องปั้นดินเผา การค้นพบศิลปะแขนงนี้ ถือเป็นกระบวนการสำคัญที่แสดงให้เห็นถึง การก้าวเข้าสู่ความเป็นอารยชนของมนุษยชาติ เพราะถือเป็นครั้งแรกที่เรารู้จักนำทรัพยากรซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติ มาผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ และผลิตเป็นของที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

จีนเป็นแหล่งกำเนิดของเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายคราม เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนมีประวัติความเป็นมายาวนาน มีรูปร่างสวยงาม เนื้องานละเอียด และยังได้รวมเอาคุณค่าด้านการใช้งานและคุณค่าทางศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่อง เคลือบลายครามของจีนยังคงเฟื่องฟู แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามที่มีชื่อเสียงของจีน ได้แก่ จิ่งเต๋อเจิ้น ถังซานและสือวาน

เครื่องปั้นดินเผาที่ขุดค้นพบที่ซากเมืองโบราณยินซึ่งเป็นเมืองหลวงสมัยราชวงศ์ซางเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนเกิดในสมัยนั้น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ฮั่นเทคนิคการเผาได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เครื่องปั้นดินเผาลดความสำคัญลงไปโดยมีเครื่องเคลือบลายครามเข้ามาแทนที่ ในสมัยราชวงศ์ถังการสร้างสรรค์ทางศิลปะและเทคนิคการผลิตเครื่องปั้นดินเผาได้รับการพัฒนาจนสุกงอมทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ เครื่องเคลือบลายครามสีเขียวอ่อน เครื่องเคลือบลายครามสีขาวและเครื่องเคลือบลายครามสามสีถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงเทคนิคและศิลปะการผลิตขั้นสูงสุดของเครื่องเคลือบลายครามในสมัยราชวงศ์ถัง ต่อมาในสมัยราชวงศ์หยวน มีเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามจำนวนมากจำหน่ายไปยังต่างประเทศ ในสมัยราชวงศ์ซ่ง อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามเจริญรุ่งเรืองมาก จึงมีเตาเผาที่มีชื่อเสียงในการผลิตเกิดขึ้นมากเช่นกัน จนมาถึงสมัยราชวงศ์หมิงและชิงซึ่งเป็นยุคที่อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบลายครามของจีนรุ่งเรืองถึงขีดสุด เทคนิคและฝีมือการผลิตในยุคนี้ก็ได้รับพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งเช่นกัน